ปาล์มสิบสองปันนา
█║▌│█│║▌║││█║▌║▌║█║▌│█│║▌║││█║▌║▌║█║▌│█│║▌█║▌│█│║▌║││█
ปาล์มสิบสองปันนาเป็นพรรณไม้ตระกูลปาล์มมีลำต้นเดี่ยว สูงประมาณ 1.5-2 เมตร ส่วนยอดของลำต้นมีกาบใบแตกออกมา ใบสีเขียวเข้ม มีลักษณะเป็นรูปขนนกแผ่โค้งออกรอบต้น ทำให้ดูสวยงาม โดยเมื่อปลูกเดี่ยวปล่อยให้มีพื้นที่ว่างรอบๆ ต้น ปาล์มสิบสองปันนาจะแผ่กิ่งก้านใบออกอย่างเสรีดูสวยและสง่างาม
ปาล์มสิบสองปันนาเป็นไม้กลางแจ้งที่ทนต่อแสงแดดได้ตลอดวัน ต้องการน้ำและความชื้นในระดับปานกลาง แต่ก็สามารถเจริญเติบโตได้แม้มีแสงแดดน้อยและน้ำน้อย จึงสามารถนำมาปลูกเป็นไม้ประดับภายในอาคารได้
ปาล์มสิบสองปันนาเหมือนกับปาล์มชนิดอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติในการดูดสารพิษในอากาศภายในอาคารได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะสารไซรีน (xylene) และมีการคายความชื้นที่ดี จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาปลูกเป็นไม้ประดับภายในอาคารสำนักงาน
► ชื่อ
|
ปาล์มสิบสองปันนา
|
► ชื่อวิทยาศาสตร์
► ชื่อวงศ์ |
Phoenix loureiri Kunth, Phoenic roebelenii
ARECACEAE (PALMAE)
|
► ถิ่นกำเนิด ภาคเหนือของไทยและประเทศในแถบอินโดจีน
► แสงแดด กึ่งแดดถึงแดดจัด
► อุณหภูมิ 18-24 องศาเซลเซียส ► ความชื้น ต้องการความชื้นปานกลาง
► น้ำ ต้องการน้ำปานกลาง
► ลักษณะ
ปาล์มสิบสองปันนามีขนาดลำต้นที่เล็ก และเติบโตช้า มีความสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 2 เมตร
ส่วนก้านใบนั้นยาว 60 - 120 เซนติเมตร ลักษณะเป็นแบบใบมะพร้าว
มีใบย่อยประมาณ 100 ใบ
ก้านใบจัดเรียงในระนาบเดี่ยว ส่วนใบย่อยเรียงเป็นสองข้าง ใบย่อยแต่ละใบยาว 15-25 เซนติเมตร
กว้าง 1 เซนติเมตร ลักษณะโค้งลง สีเขียวอมเทา
ด้านใต้ใบมีขนเล็กๆ
ส่วนดอกนั้นมีขนาดเล็ก เป็นสีเหลืองอ่อน
มีช่อดอกยาว 45 เซนติเมตร
และมีผลนั้นเป็นผลแบบเมล็ดเดียว คล้ายอินทผลัมขนาดเล็ก เนื้อในบาง
► การปลูกและประโยชน์
ปาล์มสิบสองปันนานิยมปลูกเป็นไม้ประดับ
เพราะมีขนาดเล็กเติบโตช้า รูปใบสวยงาม
เหมาะสำหรับสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นในประเทศไทย แต่ก็สามารถเติบโตได้ในหลายภูมิภาคของโลก
► การขยายพันธุ์
โดยการเพาะเมล็ด และแยกหน่อ
► โรคและแมลง
เพลี้ยแป้ง ตั๊กแตนกินใบ และหนอนม้วนใบ
|
►การป้องกันและกำจัด
ฉีดพ่นด้วยยามาลาไธออน หรือไดเมธไธเอธ หรือจะใช้ยาดูดซึมพวกไซกอนก็ได้
|
ขอบคุณค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น